2559 สถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชนปี 2560 ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์ ป้ายคำ
2560 – 2569 ซึ่งทำงานภายใต้การนำของพ. ร. บ. การป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ. 2559 แต่อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า พ. ฉบับนี้กลับแทบไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงในระดับโรงเรียน เห็นได้จากการเชิญแม่วัยรุ่นออกจากสถานศึกษาซึ่งพบได้บ่อยครั้งจนดูราวเป็นเรื่องปกติ ทุกข์ของแม่วัยใส พิมพ์ชนก น้อยต่วน หรือฟ้า หนึ่งในแม่วัยรุ่นกล่าวเปิดใจว่าตนเป็นอีกคนที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมและถูกบีบให้ออกจากระบบการศึกษา โดยขณะนั้นตนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร แรกที่รู้ว่าท้องกังวลมากและไม่กล้าปรึกษาใคร แต่ก็ตัดสินใจขอคำปรึกษาจากครูประจำชั้น ซึ่งเป็นครูสอนสุขศึกษาด้วย "เขาไม่ได้บอกว่าเรียนต่อได้ เขาบอกให้ไปลาออก" ฟ้ากล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าขณะนั้นมี พ. คุ้มครองเด็กท้อง เพียงแต่เคยดูวิดีโอที่บอกว่าถ้าท้องครูไม่มีสิทธิ์ไล่ออก หากไม่รู้ถึงที่มาว่าเป็นความจริงหรือไม่ อีกทั้งไม่มีอำนาจในการต่อรองกับครูและผู้อำนวยการโรงเรียน จึงจำต้องลาออก และสมัครเรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน. )
อนามัยโลกเผยสถิติหญิงไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีตั้งครรภ์สูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน หน่วยงานไทยผุดนโยบายลดจำนวนเด็กท้อง แม่วัยรุ่นจำนวนมากถูกบีบให้ออกจากโรงเรียน นักเรียน และครูไม่ทราบว่ามีกฎหมายคุ้มครองให้ได้เรียนต่อ มูลนิธิ path2health ชี้ การให้ความช่วยเหลือจากโรงเรียนไม่เพิ่มปัญหาพฤติกรรมท้องเลียนแบบ เด็กท้องควรได้รับโอกาสและการช่วยเหลือจากรัฐและสังคม ที่มาภาพประกอบ: Bay Hypnobirthing ท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นไทย องค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลสถานการณ์การตั้งครรภ์ในไทย ปีพ. ศ. 2556 พบว่าหญิงไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีตั้งครรภ์สูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีอัตราการวัยรุ่นอายุ 10 -19 ปีที่ตั้งครรภ์อยู่ที่ 74 คน ต่อวัยรุ่น 1, 000 คน ขณะที่กรมอนามัยระบุอัตราส่วนเด็กท้องที่สำรวจล่าสุดในปี พ. 2559 ว่าลดลงเหลือ 42. 5 คน ต่อวัยรุ่น 1, 000 คน คิดเป็นร้อยละ 14. 2 เทียบกับปี พ. 2556 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 16. 8 จะเห็นได้ว่าในช่วง 3 ปีให้หลังของของการสำรวจ จำนวนเด็กท้องในไทยลดลงแต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับนานาประเทศ ทั้งนี้เกิดจากหน่วยงานต่าง ๆ ในไทยมีความพยายามที่จะผลักดันนโยบายเพื่อลดจำนวนการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นโดยก่อร่างเป็นแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์การป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ พ.
ได้ โดยโรงเรียนที่ไม่เคารพสิทธิในการศึกษาต่อมีความผิดตามมารตราที่ 21 และต้องแก้ไขให้เป็นไปตามที่พ. กำหนด พระราชบัญญัติ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.
ขอบคุณที่สนใจดาวน์โหลดเอกสารค่ะ ไฟล์เอกสารกำลังดาวน์โหลดภายใน 5 วินาที หรือ คลิกที่ปุ่ม Download ด้านล่างนี้ได้ทันทีหากไม่ต้องการรอ Download สมัครรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลและเก็บสถิติผู้ที่สนใจในรายละเอียดงานวิจัย มั่นใจได้ว่าอีเมล์ที่ทางเราส่งไม่ใช่อีเมล์ขยะ หรือแสปมอีเมล์คะ
ดังกล่าว โดยเกือบทั้งหมดกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าหากมีเด็กท้องในโรงเรียน สิ่งที่ตนต้องทำคือให้กำลังใจและความช่วยเหลือ แต่ในท้ายที่สุดเด็กก็ต้องออกจากโรงเรียน "ไม่ทราบจริง ๆ ว่ามี ก็ทำแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เด็กท้องเราก็ให้กำลังใจ แต่ถามว่าเรียนได้ไหมก็ต้องออกไปก่อน ให้คลอดก่อนค่อยว่ากัน" ข้าราชการครูบรรจุ โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว ทั้งนี้ครูกว่าครึ่งในจำนวนนี้ที่สนับสนุนการมีอยู่ของพ. และเห็นด้วยว่าเด็กควรได้เรียนต่อยังสถานศึกษาเดิม ส่วนอีก 6 คน กล่าวว่ารู้อยู่ก่อนแล้ว และพร้อมให้ความช่วยเหลือเด็กหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น "วัยรุ่นคงอยู่ในภาวะวิตกกังวลและเครียด ครูต้องให้ความเชื่อมั่นในการเป็นที่ปรึกษาให้เค้าอุ่นใจ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลร่างกาย และอธิบายถึงเนื้อหาพ. ให้เขาทราบ" ข้าราชการครูบรรจุ โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร กล่าว ก่อนเสริมว่าปัจจุบันโรงเรียนของตนยังไม่เคยมีแม่วัยใส จึงไม่ทราบถึงกระบวนการในส่วนของผู้บริหารสถานศึกษา ว่าในบทสรุปแล้วจะดำเนินการอย่างไร ในส่วนของหน่วยงานราชการ ดร. ปิยะรัตน์ เอี่ยมคง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กล่าวถึงการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าประสงค์ยุทธศาสตร์ชาติว่าปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น "ปีนี้เราทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้สิทธิตามพ.
เพื่อติดตามประเมินผล ภาคละ 1 จังหวัด เมื่อได้รับผลออกมาทางกรมอนามัยมีหน้าที่จัดทำรายงานเสนอต่อ ครม เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ แล้วปรับแก้ เพราะที่จริงปัญหาอาจไม่ได้มีแค่การรับรู้ ก็ต้องมาคุยกันว่าจะแก้ปัญหาแต่ละเรื่องอย่างไร ใครเป็นคงลงมือกับส่วนไหน" ดร. ปิยะรัตน์ กล่าว ความเข้าใจที่ซ้ำเติมเด็ก หลังการประกาศใช้พ. แม่วัยรุ่น ได้เกิดกระแสตีกลับในช่องทางต่าง ๆ ที่มีการนำเสนอ โดยมากมีเนื้อหาเชิงลบ อาทิ การกล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้เกิดพฤติกรรมท้องเลียนแบบในหมู่วัยรุ่น บ้างก็กล่าวว่าพ.